ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลการเล่นไพ่ แต่ไม่กล้าพอที่จะไปเสี่ยงกับเกมส์โหด ๆ อย่าง โป๊กเกอร์ หรือแบล็คแจ็ค และมักจะอารมณ์เสียเวลาที่เล่นบาคาร่าแล้วเจอไพ่ใบที่สามมาทำให้แพ้ ไพ่เสือมังกรอาจเป็นไพ่ที่เหมาะกับคุณอยู่ก็ได้ แม้ว่าไพ่นี้จะมีคนบอกว่ามันจบไว ได้ง่าย เสียเร็ว แต่วันนี้ผมมีสูตรไพ่ดี ๆ ที่อยากจะมาแนะนำ และรับประกันได้เลยว่าต่อให้เล่นเสือมังกรแล้วเสียมากแค่ไหน ถ้าใช้สูตรนี้แล้วยังไงก็ได้คืนชัวร์ ว่าแต่มันคืออะไรไปดูกันเลย
เสือมังกรออนไลน์ เกมส์ไพ่สำหรับคนไม่ชอบรอ
เล่นพนันทั้งทีใครก็อยากเห็นกำไรเร็ว ๆ เสือมังกร ก็เลยเป็นไพ่ที่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมันใช้แค่ไพ่ใบเดียวชี้แพ้ชนะ วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนการเล่นเหมือนบาคาร่าเกือบทุกอย่าง ต่างกันที่ใช้ไพ่น้อยกว่า ไม่มีจั่วไพ่เพิ่ม วางเดิมพันแค่ 3 ฝั่ง คือ เสือ, มังกร และ เสมอ ส่วนอัตราแพ้ชนะก็ให้มากถึง 50 : 50 มันจึงเป็นไพ่ที่ถูกใจนักเล่นส่วนใหญ่ที่ชอบความเร็วความไว ไม่ต้องคิดเยอะ จนตอนนี้ไปคาสิโนออนไลน์เว็บไหนก็ต้องมีมันอยู่คู่กับบาคาร่าเสมอ
เสือมังกร ดียังไง
สำหรับใครที่ชอบใช้กลยุทธ์ในการเล่น เน้นไปที่การอ่านไพ่ อ่านทางอ่านเค้า อาจไม่ค่อยถูกใจไพ่นี้มากนัก เพราะมันมีเวลาให้ทำเรื่องอย่างว่าน้อยมาก ๆ เลยเป็นเกมส์ไพ่ที่ไม่เหมาะกับคนใจเย็น แต่ถ้าคุณเป็นคนหัวร้อนหรือชอบอะไรก็ได้ง่าย ๆ เน้นไวไว้ก่อน นี่แหละคือไพ่ที่คุณรอคอย
จุดเด่นของไพ่นี้อยู่ตรงที่มีตัวเลือกการวางเดิมพันน้อย มีแค่ เสือ, มังกร และ เสมอ การแจกไพ่ก็ให้แค่ฝั่งละ 1 ใบ กติกาก็ง่าย ๆ ฝั่งไหนได้แต้มไพ่มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ อัตราจ่ายสูงสุด 8 เท่า โอกาสชนะมากถึง 50% เป็นอีกหนึ่งเกมส์พนันที่มีความเสี่ยงต่ำ โอกาสทำกำไรสูง
จุดด้อยของไพ่นี้จะอยู่ที่ตัวผู้เล่นเสียมากกว่า เพราะมันเป็นไพ่ที่ใช้เวลาเร็วมาก หากใครที่ไม่ชำนาญหรือว่าเล่นแบบไม่มีการวางแผน ไม่มีสูตรเดินเงิน ไม่เกินห้าตาสิบตาอาจพาให้ตัวแตกได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่ทุนน้อย นอกจากนี้ตัวเลือกในการวางเดิมพันก็มีจำกัด มากสุดที่เคยเจอคือแทงได้ 5 รูปแบบ มันก็เลยอาจทำให้คนเล่นเบื่อไวขึ้น
กติกาการเล่น เสือมังกร
เสือมังกรจะมีการใช้ไพ่หลายสำรับสับไว้แล้วใส่ในชูเช่นเดียวกับบาคาร่า ทันทีที่เปิดวางเดิมพันขึ้นมาเราจะมีเวลา 15-40 วินาทีในการแทงว่าฝั่งไหนจะชนะระหว่าง เสือ (Tiger) กับ มังกร (Dragon) หรือว่าจะออกมาเสมอ (Tie) หลังจากที่ดีลเลอร์ปิดรับวางเดิมพันแล้ว ก็จะทำการแจกไพ่ให้กับแต่ละฝั่ง ฝั่งละ 1 ใบ เมื่อแจกไพ่ครบแล้วก็จะหงายไพ่เพื่อดูว่าแต้มของฝั่งไหนจะมากน้อยกว่ากัน ถึงตัดสินผลแพ้ชนะ
แต้มไพ่เสือมังกร
แต้มไพ่ในเกมส์นี้จะต่างจากบาคาร่าคือ ไพ่ทุกใบจะมีแต้ม เลยเป็นเกมส์ที่ไม่มีไพ่บอด แต่ว่าดอกไพ่ยังคงไม่มีผลต่อขนาดไพ่เหมือนเดิม สำหรับไพ่แต่ละใบจะมีแต้มเรียงจากน้อยไปหามากดังนี้
- ไพ่ A มี 1 แต้ม
- ไพ่ 2 – 10 มีแต้มเท่ากับเลขหน้าไพ่
- ไพ่ J มี 11 แต้ม
- ไพ่ Q มี 12 แต้ม
- ไพ่ K มี 13 แต้ม
เสือมังกร แทงยังไง จ่ายยังไง
อัตราจ่ายของเสือมังกรจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการวางเดิมพัน ดังนี้
- แทงว่า เสือชนะ หากฝั่งเสือแต้มมากกว่า ก็จะได้รับกำไรกลับมา 1 เท่า
- แทงว่า มังกรชนะ หากฝั่งมังกรมีแต้มมากกว่า ก็จะได้กำไร 1 เท่า
- แทงว่า เสมอ หากสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน ก็จะได้กำไร 8 เท่า
- แทงว่า เสมอ แต่ผลออกมาเป็น เสือ หรือ มังกร ชนะ จะได้รับเดิมพันกลับมาครึ่งเดียว
สูตรเดินเงิน เสือมังกร
อย่างที่รู้กันดีว่าเกมส์ไพ่เสือมังกรนั้นใช้เวลาในการเล่นน้อยมาก มันจึงทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้แค่ในช่วงสั้น ๆ และการที่มันมีอัตราจ่ายต่ำอาจทำให้ได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นสูตรเดินเงินจึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เราสร้างกำไรได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนใหญ่แล้วสูตรเดินเงินที่เอามาใช้กับเสือมังกร สามารถเอาสูตรของบาคาร่ามาประยุกต์ใช้ได้หมดตั้งแต่ Martingale, Super Martingale, Winning Martingale, สูตรเดินเงิน 1324, ลาบูเซอร์ และอีกมากมาย เรียกได้ว่าใครมีพื้นฐานของบาคาร่ามาก็ไม่ยากเลย
ส่วนใครที่เป็นมือใหม่ ไม่รู้ว่าจะเล่นสูตรไหน หรือเล่นไปแล้วกลัวไม่ได้เงินคืน ผมจะพาไปรู้จักกับสูตรเดินเงิน Martingale หรือที่เรียกกันว่าสูตรแทงทบที่หลายคนรู้จักกันดี และเป็นสูตรที่นิยมใช้กันทั่วโลก ถึงขนาดที่มีคนบอกว่าถ้าใครไม่ซวยจริง ๆ สูตรนี้เล่นยังไงก็ได้เงิน ว่าแล้วไปดูกันดีกว่าครับว่ามันเป็นยังไง ใช้ยากหรือไม่ และได้กำไรจริงหรือเปล่า
สูตรเดินเงิน Martingale
สูตรนี้การันตีโดยนักพนันทั่วโลกแล้วว่ามันสามารถใช้ทำกำไรได้จริง แต่ส่วนมากจะเน้นไปที่การถอนทุนเสียมากกว่า เพราะกำไรที่ได้กลับมาคือหน่วยหน่วย ดังนั้นมันจึงเป็นสูตรที่ดีมาก ๆ หากใช้ในการแก้เกมส์เวลาที่เราเล่นเสียตั้งแต่ตน หลักการก็ง่าย ๆ แค่ใช้วิธีเพิ่งเงินเดิมพันเข้าไปเป็นสองเท่าของรอบที่เสีย เมื่อเราชนะมากำไรที่ได้ในรอบสุดท้ายเมื่อคืนทุนที่เสียไปตั้งแต่รอบแรกแล้วจะเหลือกำไรอยู่อีก 1 หน่วย
ก่อนวางเดิมพันทุกครั้งให้ดูก่อนว่าโต๊ะที่เราจะเล่นมีขั้นต่ำกี่บาท แล้วเอามาเป็นตัวหารของทุนที่มีอยู่ เช่น มีทุน 1,000 บาท เล่นโต๊ะขั้นต่ำ 10 บาท ก็จะได้ทุนทั้งหมด 100 หน่วย แต่การแบ่งหน่วยลงทุนตรงนี้ต้องระวังเรื่องเวลาแทงทบด้วย เพราะถ้าทบแล้วสูงเกินเพดานที่โต๊ะกำหนดไว้จะทำให้เรามีโอกาสขาดทุนสูง ถ้าอยากรู้ว่าเกินหรือไม่ให้เอาขนาดของหน่วยลงทุน x 16 ซึ่งเป็นหน่วยลงทุนสุดท้ายที่จะวางในรอบที่ 5 ถ้ามูลค่าไม่เกินเดิมพันสูงสุดที่โต๊ะกำหนดไว้ก็โอเค แต่ถ้าเกิน แนะนำให้ลดขนาดหน่วยลงทุนลง
วิธีการใช้สูตรเดินเงิน Martingale เราจะแบ่งรอบการวางเดิมพันเป็น 5 รอบ ดังนี้
- รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย ถ้าแพ้ไปรอบต่อไป ถ้าชนะให้กลับไปรอบที่ 1
- รอบที่ 2 วางเดิมพัน 2 หน่วย ถ้าแพ้ไปรอบต่อไป ถ้าชนะให้กลับไปรอบที่ 1
- รอบที่ 3 วางเดิมพัน 4 หน่วย ถ้าแพ้ไปรอบต่อไป ถ้าชนะให้กลับไปรอบที่ 1
- รอบที่ 4 วางเดิมพัน 8 หน่วย ถ้าแพ้ไปรอบต่อไป ถ้าชนะให้กลับไปรอบที่ 1
- รอบที่ 5 วางเดิมพัน 16 หน่วย ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ให้กลับไปรอบที่ 1
ในกรณีที่แพ้ติดกัน 5 รอบ แนะนำว่าควรจะหยุดเล่นหรือเปลี่ยนโต๊ะใหม่จะดีกว่า เพราะว่าเรามีโอกาสน้อยมากที่จะชนะแล้วเมื่อคำนวณตามหลักของค่า House Edge หรือความได้เปรียบของคาสิโน ส่วนเรื่องเงินทุนนั้นใครที่คิดจะใช้สูตรนี้ให้ลองคำนวณดูก่อนว่าทุนที่เรามีแบ่งออกมาแล้วได้กี่หน่วย อย่างน้อยก็ควรจะมีสัก 50 หน่วย เพื่อที่จะแทงทบไปถึงรอบที่ 5 ได้ แต่ถ้าจะให้ปลอดภัย เราขอแนะนำว่าควรมีสัก 100 หน่วยกำลังดี